3 minutes read | เขียนโดย: โค้ชเนี๊ยบ – อดิศักดิ์ สถิตธำมรงค์
ในโลกจริงของการขายบ้าน… “การไม่ถามเรื่องการเงิน” อาจทำให้เราวางแผนพลาดตั้งแต่แรก
หลายครั้ง ผู้ขายตั้งราคาสูง เพราะยึดจาก “จำนวนเงินที่อยากได้” มากกว่า “สิ่งที่จะเหลือจริงหลังหักค่าใช้จ่าย”
เช่น ลืมคำนึงถึง:
- หนี้ธนาคารที่ต้องปิด
- ค่าธรรมเนียมภาษี ค่าโอน
- ค่าใช้จ่ายแฝง เช่น ซ่อมแซม หรือส่วนกลาง
- และจำนวนเงินที่ต้องการเก็บไว้เริ่มต้นชีวิตใหม่
ผลคือ…
แม้จะขายได้ตามราคาที่ตั้งไว้ แต่เงินที่เหลือจริงอาจไม่ถึงเป้าหมาย
หรือหนักกว่านั้น… ตั้งราคาสูงจนเกินความเป็นจริง ทำให้ขายไม่ออก
✅ วิธีตั้งคำถาม “เรื่องเงิน” แบบมืออาชีพ
จุดประสงค์ คือเข้าใจ “บริบททางการเงิน” เพื่อวางแผนอย่างตรงจุด ไม่ใช่จับผิดหรือกดราคา
ตัวอย่างคำถาม:
“บ้านหลังนี้ยังมีภาระธนาคารอยู่ไหมครับ? ประมาณเท่าไหร่?”
“ลูกค้าต้องการเหลือเงินเท่าไหร่หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดครับ?”
คำถามแบบนี้ใช้โทนน้ำเสียงแบบ “ห่วงใย” ไม่ล้ำเส้น ช่วยให้ผู้ขายเปิดใจมากขึ้น
💡 ทำไมต้องกล้าถาม?
ถ้าเราไม่รู้ “ภาพรวมทางการเงิน” ของผู้ขาย
เราจะไม่มีทางรู้ว่า…
- ราคาที่เขาคิด “ไปไหว” หรือไม่
- ถ้าไม่ได้ตามนั้น เขามีทางเลือกหรือความยืดหยุ่นไหม?
- และดีลนี้ “มีโอกาสปิด” จริงหรือเปล่า?
การกล้าถาม คือการเริ่มต้นความเข้าใจ เพื่อปิดดีลอย่างมีคุณภาพ ไม่ใช่แค่รับฝากแล้วลุ้นโชค
🎯 สรุป
นายหน้ามืออาชีพ “กล้าถาม กล้าฟัง และไม่ตัดสิน”
เพราะเป้าหมายของเราคือ “ช่วยผู้ขายปิดดีลได้จริง” ไม่ใช่แค่โพสต์แล้วหาย
อย่ากลัวคำถามเรื่องเงิน
ถ้าถามถูกจังหวะ ถูกโทน… ผู้ขายจะรู้ว่าเรา “เข้าใจและจริงใจ” ไม่ใช่แค่หวังเซ็นสัญญา

Join The Discussion